บล. พาย มีบัญชีกี่ประเภท แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร

บัญชีเงินสดเป็นบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่
นักลงทุนจะต้องวางหลักประกันอย่างน้อย 20% ของมูลค่าหลักทรัพย์ที่ต้องการจะลงทุน และทำการชำระราคาในอีก 2 วันถัดไป หรือ T+2 ตัวอย่างเช่น หากนักลงทุนต้องการซื้อหลักทรัพย์มูลค่า 100,000 บาทในวันจันทร์ นักลงทุนจะต้องวางหลักประกันมูลค่าอย่างน้อย 20,000 บาท หลังจากนั้นเงินจะถูกหักจากบัญชีอัตโนมัติจำนวน 100,000 บาท ในวันทำการ 2 วันถัดไป คือวันพุธ ในกรณีที่ขายหลักทรัพย์ นักลงทุนจะได้รับค่าขายหลักทรัพย์ในวันที่ T+2 เช่นกัน

บัญชีแคชบาลานซ์เป็นบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่นักลงทุนจะต้องวางหลักประกันแบบเต็มจำนวน หมายถึง ในบัญชีมีเงินเท่าไรจะสามารถใช้ซื้อหลักทรัพย์ได้เท่านั้น ตัวอย่างเช่น นักลงทุนต้องการซื้อหลักทรัพย์มูลค่า 100,000 บาท ก็จะต้องโอนเงินเข้าบัญชีที่ใช้ซื้อขายจำนวน 100,000 บาทก่อนจึงจะสามารถซื้อหลักทรัพย์ได้ โดยเมื่อส่งคำสั่งซื้อแล้ว ยอดเงินจะถูกหักจากหน้าบัญชีทันทีถึงแม้คำสั่งซื้อนั้นจะยังไม่สำเร็จ (match) ก็ตาม แต่หากคำสั่งซื้อนั้นไม่สำเร็จ หรือมีการยกเลิกคำสั่ง ยอดเงินก็จะกลับคืนเข้ามาในบัญชีทันที

บัญชี Margin เป็นบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่นักลงทุนสามารถกู้ยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อมา
ซื้อหลักทรัพย์ (Margin Loan) โดยนักลงทุนจะต้องวางหลักประกันเป็นเงิน หรือหลักทรัพย์ตามจำนวนที่บริษัทกำหนดโดยการชำระราคา
จะตัดจากเงินในส่วนของนักลงทุนก่อน และค่อยใช้เงินในส่วนที่กู้ยืมจากบริษัทในส่วนที่ยังขาด โดยนักลงทุนจะสามารถซื้อขายได้เฉพาะหลักทรัพย์ที่บริษัทกำหนดเท่านั้น บัญชีประเภทนี้
จะช่วยเพิ่มอำนาจซื้อแก่นักลงทุนให้สามารถซื้อหลักทรัพย์มูลค่ามากกว่าจำนวนเงินที่ตนเองมีอยู่ได้

วางหลักประกัน

ดอกเบี้ยบนหลักประกันที่วางไว้

ระยะเวลาการชำระเงิน